新型コロナウイルスの影響でタイの経済が悪化しているため、日本にもあるような雇用関係、消費促進のための助成金の政策が公表されました。

１．新規卒業者の採用にかかる助成金

この政策は社会保険に加入している法人・個人の事業者及び2019～2020年に卒業した方の対象となります。卒業生を雇用する場合、国が1年間（2020年10月1日～2021年9月30日）で50％の給与を助成しますが、助成金は大学生　7,500バーツ、職業短大　5,750バーツ、職業高校または高校生　4,700バーツが上限となります。

申し込み方法について事業者と労働者双方は労働省を作成したウェブサイトに採用・申し込みの希望を登録する必要があります。注意点として解雇率は15％を超える場合、事業者と労働者への助成金を受けることが出来ません。また、政府は従業員の銀行口座に直接に助成金を振り込みますので、残りの金額を会社が従業員に支給することとなります。

申し込みウェブサイトは以下の通りです。

https://www.xn--12clacd4e8al7d5e3cc7pvb4cwac.com/register/landing

２．個人商店等にかかる助成金

法人ではない屋台、市場でのお店や小さな食料雑貨店などの個人商店等（小企業）に対しては別の助成政策があります。「コンラクン（คนละครึ่ง）」というプロジェクトを参加する企業と1千万人を対象に国から助成金を支給します。個人は3,000バーツ（上限150バーツ/日）を小企業の店舗を利用した際に受給することができます。個人は購入した金額の50％を支払い、残りの50％（上限100バーツ／日）は政府がお店にお支払いします。企業は10月1日、個人は10月16日よりプロジェクトのウェブサイトで申し込めるようになります。なお、政府が「パウタン（เป๋าตัง）」というアプリケーションを通して国民に助成金を振込ます。企業は「ツンゴーン（ถุงเงิน）」というアプリケーションでお金を受領となります。

เนื่องจากผลระทบจากโควิดทำให้เศรษฐกิจประเทศไทยเกิดการชะลอตัว ดังนั้นจึงได้มีการออกนโยบายช่วยเหลือจากรัฐบาลคล้ายกับประเทศญี่ปุ่น โดยเป้าหมายของนโยบายนี้คือผู้ว่าจ้างที่อยู่ในระบบประกันสังคมทั้งที่เป็นบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล รวมไปถึงนักศึกษาที่จบในปีการศึกา 2562 และ2563 ซึ่งหากผู้ว่าจ้างคนใดจ้างนักศึกษาจบใหม่ จะได้รับเงินช่วยเหลือค่าจ้างจำนวนร้อยละ 50 เป็นเวลา 1 ปี (1 ต.ค. 2563 – 30 ก.ย. 2564) แต่ไม่เกิน 7,500 บาทสำหรับปริญญาตรี 5,750 บาทสำหรับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง และ 4,700 บาทสำหรับประกาศนียบัตรวิชาชีพหรือมัธยมศึกษาตอนปลาย ในด้านวิธีการเข้าร่วมโครงการนั้น ทั้งผู้ว่าจ้างและลูกจ้างจะต้องแจ้งความประสงค์เกี่ยวกับการจ้างและการสมัครที่เว็บไซต์ของกระทรวงแรงงาน สิ่งที่จะต้องระวังคือ หากมีสัดส่วนในการเลิกจ้างมากกว่าร้อยละ 50 ทางผู้ว่าจ้างและลูกจ้างอาจจะถูกระงับเงินช่วยเหลือ นอกจากนั้นทางรัฐบาลจะเป็นผู้จ่ายเงินช่วยเหลือให้กับลูกจ้างโดยตรงผ่านบัญชีธนาคาร ส่วนเกินที่เหลือนายจ้างจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด

เว็บไซต์สำหรับลงทะเบียน

https://www.xn--12clacd4e8al7d5e3cc7pvb4cwac.com/register/landing

ในด้านผู้ประกอบการรายย่อยที่ไม่ใช่นิติบุคคล เช่น ร้านอาหารริมทาง ร้านค้าในตลาด หรือ ร้านที่ขายสินค้าอุปโภคบริโภครายย่อย ทางรัฐก็ได้ออกนโยบายมาเพื่อช่วยเหลือเช่นกัน ผู้ประกอบการรายย่อยและประชาชนทั่วไปที่เข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่ง” จำนวน 10 ล้านคน จะได้รับเงินช่วยเหลือ โดยประชาชนทั่วไปจะได้เงิน 3,000 บาท แต่ใน 1 วันสามารถจ่ายเงินที่ได้รับให้กับผู้ประกอบการรายย่อยได้ไม่เกินวันละ 100 บาท ซึ่งประชาชนจะจ่ายค่าสินค้าในราคาร้อยละ 50 ของราคา ส่วนอีกร้อยละ 50 ทางรัฐจะเป็นผู้จ่ายให้ (สูงสุด 150 บาท/วัน)  ผู้ประกอบการและประชาชนสามารถเข้าร่วมผ่านทางเว็บไซต์ของโครงการ ซึ่งจะลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2563 สำหรับผู้ประกอบการ และ 16 ต.ค. 2563 สำหรับประชาชน เงินช่วยเหลือที่จะได้รับนั้นจะได้รับผ่านแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” และผู้ประกอบการจะได้รับเงินผ่านแอปพลิเคชั่น “ถุงเงิน”

記事の内容が貴社の実態に合わせてどのように取り扱われるかが不明な場合など、お困りのことがございましたらお気軽に下記メールアドレスまでお問合せ下さい。

info@bm-ac.com

http://www.businessmanagementasia.com/jp/home

BM Accounting Co., Ltd.

BM Legal Co., Ltd.

President

米国公認会計士(inactive)

社会保険労務士

長澤 直毅

※本記事に記載の内容は、作成時点で得られる法律、実務上の情報をもとに作成しておりますが、本記事の閲覧や情報収集については、情報が利用者ご自身の状況に適合するものか否か、ご自身の責任において行なっていただきますようお願いいたします。 本記事に関して発生トラブル、およびそれが原因で発生した損失や損害について、BM Accounting Co., Ltd,/BM Legal Co., Ltd.及び執筆者個人.は一切の責任を負いかねます。また、本記事は一部で外部サイトへのリンクを含んでいますが、リンクする第三者のサイトの個人情報保護の取り扱いや、そのサイトの内容に関して一切責任を負いませんのであらかじめご了承ください。